< กลับหน้าหลัก

เกี่ยวกับ "ไม่ขำ"

ประเทศไทยมีอัตราการแกล้งกันในเด็กและวัยรุ่นสูงเป็นอันดับสองของโลก รองลงมาจากญี่ปุ่น การแกล้งกันนั้นเกิดขึ้นเป็นประจำทั้งในและนอกโรงเรียน ทั้งในพื้นที่กายภาพและพื้นที่ออนไลน์ ซึ่งบ่อยครั้งส่งผลให้เกิดผลกระทบทางลบทั้งทางร่างกายและจิตใจ ตั้งแต่การบาดเจ็บ การไม่อยากไปโรงเรียน การเก็บตัว นอนไม่หลับ ไปจนถึงการคิดและพยายามฆ่าตัวตาย

สำหรับนักเรียน สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในการรับมือกับปัญหาการแกล้งกัน คือความรู้และทักษะในการเอาตัวรอดจากสถานการณ์ต่างๆ เช่นการแกล้งกันทางกาย ทางคำพูด และบนโลกออนไลน์ รวมทั้งการขอความช่วยเหลือเพื่อให้ตนเองพ้นจากสถานการณ์นั้น และ/หรือป้องกันไม่ให้เกิดสถานการณ์นั้นขึ้นอีก เราได้พัฒนา แชทบอท "ไม่ขำ" ให้เด็กนักเรียนมาเรียนรู้และขอคำปรึกษาได้ตลอดเวลา โดยเข้าใช้งานได้ที่ m.me/maikhambot หรืออ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีใช้งาน ที่นี่

Maikham chatbot

สำหรับครู สิ่งที่จำเป็นคือครูจะต้องมีความรู้และทักษะในการเฝ้าระวัง ตรวจหา และรับมือกับการแกล้งกันของเด็กนักเรียน รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือนักเรียนผ่านกลไกและเครื่องมือต่าง ๆ อย่างทันท่วงที โครงการได้พัฒนา หลักสูตรออนไลน์ “การรับมือกับปัญหาการถูกกลั่นแกล้งทางออนไลน์” ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ครูได้เรียนรู้ทักษะดังกล่าวได้

รายละเอียดบทเรียน

Module 1

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการกลั่นแกล้งกัน

พาครูไปเข้าใจปัญหาเด็กนักเรียนถูกกลั่นแกล้งรังแกในโรงเรียน เด็กๆ อยากให้ครูช่วยเหลือพวกเขา แต่อาจจะยังไม่กล้าหรือไม่มั่นใจ ครูคือที่พึ่งคนสำคัญคนแรกในโรงเรียน

Module 2

รู้จักการกลั่นแกล้งกัน

พาครูไปเข้าใจว่าการถูกกลั่นแกล้งมีลักษณะอย่างไร การกระทำใดคือการกลั่นแกล้งรังแก ซึ่งมีความแตกต่างจากการเล่นกันของเด็กๆ และรู้ถึงผลกระทบหากปล่อยให้เกิดการกลั่นแกล้งกันไปเรื่อยๆ

Module 3

การกลั่นแกล้งกันทางกาย คำพูด และโลกออนไลน์

พาครูไปรู้จักกับการกลั่นแกล้งรูปแบบต่างๆ ทั้งทางกาย วาจา และโลกออนไลน์

Module 4

การตรวจหาการกลั่นแกล้งกัน

พาครูไปฝึกให้สังเกตมากขึ้นเพื่อตรวจหาการกลั่นแกล้งกันในโรงเรียน

Module 5

การจัดการและป้องกันการกลั่นแกล้งกัน

พาครูไปพบกับวิธีการช่วยเหลือดูแลนักเรียน และการป้องกันการกลั่นแกล้งรังแกในโรงเรียน

แหล่งศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม

เนื้อหาในบทเรียนออนไลน์นี้ ถูกประมวลขึ้นจากแหล่งความรู้ที่หลากหลาย ซึ่งเราขอแนะนำดังนี้